เมนู

สกุลาเถรีอปทานที่ 4 (24)


ผลของการถวายน้ำมันตามประทีปบูชาพระพุทธเจดีย์


[164] ในกัปที่หนึ่งแสนแต่ภัทรกัปนี้
พระพิชิตมารผู้เป็นนายกของโลก พระนามว่า
ปทุมุตตระ ผู้ทรงรู้จบธรรมทั้งปวงเสด็จอุบัติขึ้น
แล้ว
พระองค์เป็นบุรุษอาชาไนย ประเสริฐ
กว่าบัณฑิตทั้งหลาย ทรงปฏิบัติเพื่อเกื้อกูล เพื่อ
ความสุข เพื่อประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวง ในโลก
กับทั้งเทวโลก
เป็นผู้ถึงซึ่งยศอันเลิศ ทรงสิริ ทรงมี
เกียรติคุณฟุ้งเฟื่อง อันชาวโลกทั้งปวงบูชาแล้ว
กว่านรชน ทรงข้ามพ้นจากความสงสัยแล้ว ทรง
ล่วงความเคลือบแคลงไปแล้ว ทรงมีความดำริ
ในพระหฤทัยบริบูรณ์เต็มที่ ทรงบรรลุพระสัม-
โพธิญาณอันอุดม ทรงยังมรรคาที่ยังไม่เกิดให้
เกิดขึ้น ตรัสบอกมรรคาที่ยังไม่มีใครบอก ทรง
ยังธรรมที่ยังไม่เกิดพร้อมให้เกิดพร้อม
พระองค์เป็นบุคคลผู้องอาจ ทรงรู้จัก
มรรคา ทรงทราบมรรคา ตรัสบอกมรรคา เป็น

พระศาสดาผู้ฉลาดในมรรคา ประเสริฐสุดกว่า
นายสารถี
เป็นพระโลกนาถผู้ทรงประกอบด้วยพระ-
มหากรุณา เป็นนายกโลก ทรงแสดงธรรม
ถอนเหล่าสัตว์ผู้จมอยู่ในเปือกตมคือกาม.
ครั้งนั้น ดิฉันเกิดในเมืองหังสวดีมีนาม
ว่าขัตติยนันทนา มีรูปสวย รวยทรัพย์ เป็นที่
พึงใจ มีสิริ
เป็นพระธิดาของพระราชาผู้ใหญ่ พระ-
นามว่าอานนทะ งดงามอย่างยิ่ง เป็นพระภคินี
ต่างพระมารดาแห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุต-
ตระ
ห้อมล้อมด้วยราชกัญญาทั้งหลาย ประ-
ดับด้วยสรรพาภรณ์ เข้าไปเฝ้าพระมหาวีรเจ้า
แล้วได้ฟังธรรมเทศนา
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้แจ้ง
โลกพระองค์นั้น ทรงตั้งภิกษุณีองค์หนึ่งผู้มีทิพย-
จักษุในตำแหน่งอันเลิศ ในท่ามกลางบริษัทสี่
ฉันได้ฟังพระพุทธพจน์นั้นแล้ว มีความ
ร่าเริง ถวายทานและบูชาพระสัมพุทธเจ้าแล้ว
ได้ปรารถนาทิพยจักษุ.

ทันใดนั้น พระบรมศาสดาได้ตรัสกะ
ดิฉันว่า ดูก่อนขัตติยนันทนา เธอจักได้ตำแหน่ง
ที่ตนปรารถนา ตำแหน่งที่เธอปรารถนานี้เป็นผล
แห่งการถวายประทีปธรรม
ในกัปที่หนึ่งแสนแต่กัปนี้ พระศาสดา
พระนามว่าโคดม จัดทรงสมภพในวงศ์พระเจ้า
โอกกากราช จักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก
เธอจักได้เป็นธรรมทายาทของพระศาสดา
พระองค์นั้น เป็นโอรสอันธรรมนิรมิต จักเป็น
พระสาวิกาของพระศาสดา มีนามว่าสกุลา
ด้วยกุศลกรรมที่ได้ทำไว้แล้วนั้นและด้วย
การตั้งเจตน์จำนงไว้ ดิฉันละร่างกายมนุษย์แล้ว
ได้ไปสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ในภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าพระนามว่า
กัสสปะ ผู้เป็นพงศ์พันธุ์แห่งพรหม มียศมาก
ประเสริฐกว่าบัณฑิตทั้งหลาย เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว
ครั้งนั้น ดิฉันเป็นปริพาชิกา ประพฤติ
อยู่ผู้เดียว เที่ยวไปเพื่อภิกษา ได้น้ำมันมาน้อย
หนึ่ง
มีใจผ่องใส เอาน้ำมันนั้นตามประทีป
บูชาพระเจดีย์ชื่อสัพพสังวร แห่งพระพุทธเจ้าผู้
ประเสริฐกว่าสัตว์

ด้วยกุศลกรรมที่ได้ทำไว้แล้วนั้นและ
ด้วยการตั้งเจตน์จำนงไว้ ดิฉันละร่างกายมนุษย์
นั้นแล้ว ได้ไปสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ด้วยอำนาจบุญกรรมนั้น ดิฉันไปเกิดใน
ที่ใด ๆ ประทีปเป็นอันมากก็สว่างไสวแก่ดิฉันใน
ที่นั้น ๆ
ดิฉันปรารถนาจะเห็นสิ่งที่อยู่นอกฝาหรือ
สิ่งที่อยู่นอกภูเขาศิลา ก็เห็นได้ทะลุปรุโปร่ง นี้
เป็นผลแห่งการถวายประทีป ดิฉันมีนัยน์ตาแจ่ม
ใส รุ่งเรืองด้วยยศ มีศรัทธา มีปัญญา นี้ก็เป็น
ผลแห่งการถวายประทีป
ในภพหลังครั้งนี้ ดิฉันเกิดในสกุล
พราหมณ์ อันมีทรัพย์และข้าวเปลือกมากมาย
มหาชนยินดี พระราชาทรงบูชา
ดิฉันสมบูรณ์ไปด้วยอวัยวะทั้งปวง ประ-
ดับด้วยสรรพาภรณ์ ยืนอยู่ที่หน้าต่าง
ได้เห็นพระสุคตเจ้าเสด็จเข้าไปในเมือง
ทรงรุ่งเรืองด้วยยศ อันเทวดาและมนุษย์สักการะ
บูชา ทรงสมบูรณ์ด้วยพระอนุพยัญชนะ ประดับ
ด้วยพระลักษณะทั้งหลาย
มีจิตเลื่อมใสโสมนัส พอใจบรรพชา
ครั้นได้บรรพชาแล้วไม่นานนัก ก็ได้บรรลุอรหัต-
ผล.

ดิฉันมีความชำนาญในฤทธิ์และทิพโสต-
ธาตุ รู้วาระจิตของผู้อื่นเป็นผู้ปฏิบัติตามสัตถุ-
ศาสน์
รู้ปุพเพนิวาสญาณ และทิพยจักษุอัน
หมดจดวิเศษ ยังอาสวะทั้งปวงให้สิ้นไปแล้ว
เป็นผู้บริสุทธิ์ หมดมลทินด้วยดี
ดิฉันบำรุงพระศาสดาแล้ว ปฏิบัติตามคำ
สอนของพระพุทธเจ้าเสร็จแล้ว ปลงภาระอันหนัก
ลงได้แล้ว ถอนตัณหาอันนำไปสู่ภพขึ้นได้แล้ว
บรรลุถึงประโยชน์ คือ ธรรมเป็นที่สิ้น
สังโยชน์ทั้งปวง ที่กุลบุตรทั้งหลายออกบวชเป็น
บรรพชิตต้องการนั้นแล้ว
แต่นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงพระ-
มหากรุณา ผู้อุดมกว่านรชน ทรงตั้งดิฉันไว้ใน
ตำแหน่งเอตทัคคะว่า สกุลาภิกษุณี เป็นผู้เลิศ
กว่าภิกษุณีทั้งหลาย ฝ่ายที่มีทิพยจักษุ
ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้าดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระสกุลาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบสกุลาเถรีอปทาน

นันทาเถรีอปทานที่ 5 (25)


ว่าด้วยบุพจริยาของพระนันทาเถรี


[165] ในกัปที่หนึ่งแสนแต่ภัทรกัปนี้
พระพิชิตมารผู้เป็นนายกของโลก พระนามว่า
ปทุมุตตระ ผู้ทรงรู้จบธรรมทั้งปวง เสด็จอุบัติขึ้น
แล้ว พระองค์เป็นพระพุทธเจ้าผู้ฉลาดในวิธี-
เทศนา ตรัสสอนเหล่าสัตว์ให้รู้แจ้ง ทรงช่วย
สรรพสัตว์ให้ข้ามแล้ว ทรงช่วยให้หมู่ชนข้ามพ้น
ได้เป็นอันมาก
ทรงพระกรุณาอนุเคราะห์ แสวงหา
ประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวง ทรงตั้งพวกเดียรถีย์ที่
มาถึงแล้วทั้งหมดไว้ในเบญจศีล
พระศาสนาของพระองค์ไม่อากูล ว่าง-
เปล่าจากพวกเดียรถีย์ งดงามไปด้วยพระอรหันต์
ทั้งหลายที่มีความชำนาญ เป็นผู้คงที่
พระองค์เป็นพระมหามุนีมีพระกายสูง
58 ศอก มีพระรัศมีงามปานทองคำที่มีค่า มี
พระลักษณะอันประเสริฐ 32 ประการ
มีพระชนมายุแสนปี พระองค์ดำรงอยู่
โดยกาลเท่านั้น ทรงช่วยให้หมู่ชนข้ามพ้นได้เป็น
อันมาก.